เรียนต่ออังกฤษ เริ่มต้นยังไงดี?: คู่มือเรียนต่ออังกฤษสำหรับนักเรียนไทย

เรียนต่ออังกฤษ สำหรับหลาย ๆ คน ความฝันมันเริ่มจากภาพในหัว เดินอยู่ในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ มีประวัติยาวนานใส่เสื้อสัญลักษณ์ของโรงเรียนที่ผู้นำระดับโลกเคยเรียนมา ไม่ใช่แค่เป็นนักเรียนธรรมดา แต่เป็นคนที่ได้เรียนรู้ ได้พัฒนาทักษะ และพร้อมจะออกไปสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกและจุดหมายของฝันนั้นก็คือ “อังกฤษ” ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนประจำสุดคลาสสิกในต่างจังหวัด หรือมหาวิทยาลัยดัง ๆ ใจกลางลอนดอน ที่นี่คือประตูบานใหญ่สู่อนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาส ความมั่นใจ และประสบการณ์ระดับโลก ในคู่มือนี้ เราจะพาคุณไปดูว่า ถ้าอยากก้าวไปถึงฝันนั้น ต้องเริ่มยังไงบ้าง ทีละขั้นแบบเข้าใจง่าย ๆ

เรียนต่ออังกฤษ เริ่มต้นยังไงดี?: คู่มือเรียนต่ออังกฤษสำหรับนักเรียนไทย

Share This Article

Facebook
Twitter
LinkedIn
Email

สารบัญ

เรียนที่อังกฤษดียังไง? ทำไมถึงต้องเรียนที่นี่

อังกฤษเป็นประเทศที่ผสมผสานความเป็นเลิศทางวิชาการเข้ากับการพัฒนาตนเองได้อย่างลงตัว และนี่คือเหตุผลบางประการที่ทำให้อังกฤษกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนไทย:

การศึกษาคุณภาพระดับโลก อังกฤษมีระบบการศึกษาที่แข็งแกร่ง ตั้งแต่โรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงไปจนถึงมหาวิทยาลัยระดับโลก การเรียนการสอนในทุกระดับชั้นได้รับการออกแบบมาอย่างมีคุณภาพ

วุฒิการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น GCSEs, A Levels หรือปริญญาระดับมหาวิทยาลัย วุฒิการศึกษาจากสหราชอาณาจักรได้รับการยอมรับจากสถานประกอบการและสถาบันต่าง ๆ ทั่วโลก ช่วยเปิดประตูสู่อนาคตทางอาชีพที่มั่นคง

สภาพแวดล้อมปลอดภัยและหลากหลาย นักเรียนจะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลาย พบเจอผู้คนจากทั่วโลก และรู้สึกอุ่นใจด้วยระบบสนับสนุนด้านความเป็นอยู่ที่ให้ความสำคัญกับนักเรียนเป็นพิเศษ

ชุมชนนักเรียนไทยที่อบอุ่น ด้วยเครือข่าย ชมรม และระบบสนับสนุนของนักเรียนไทยในหลากหลายสถาบัน ทำให้การใช้ชีวิตในอังกฤษเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายและรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

การปรับตัวสู่ระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร

สำหรับครอบครัวไทย การทำความเข้าใจระบบการศึกษาของอังกฤษอาจดูไม่คุ้นเคยในช่วงแรก แต่เมื่อเข้าใจโครงสร้างแล้ว จะเห็นเส้นทางการเรียนที่ชัดเจนขึ้น

ในประเทศไทย นักเรียนจะเรียนตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1–6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1–6 ส่วนในสหราชอาณาจักร โครงสร้างจะต่างออกไปเล็กน้อย:

  • Primary School (ประถม): อายุ 5–11 ปี

  • Secondary School (มัธยมต้นถึงมัธยมปลาย): อายุ 11–16 ปี

  • Sixth Form หรือ College: อายุ 16–18 ปี

  • University (มหาวิทยาลัย): อายุ 18 ปีขึ้นไป

แทนที่จะเรียน ม.4–6 แบบไทย นักเรียนในอังกฤษจะเรียน GCSEs (อายุประมาณ 14–16 ปี) ก่อน จากนั้นจึงเลือกเรียน A Levels, IB Diploma หรือ BTEC ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย บางคนอาจเลือกเส้นทาง Foundation Year หรือ International Year One (IY1) ซึ่งเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการปรับพื้นฐานและเข้ามหาวิทยาลัยเร็วขึ้น โดยเฉพาะหากมาจากระบบการศึกษาที่ต่างออกไป

สิ่งที่ต่างอย่างชัดเจนคือ ระบบของอังกฤษให้ความสำคัญกับ “การเลือกเจาะลึก” ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยนักเรียนส่วนใหญ่มักจะเลือกเรียนเฉพาะ 3–4 วิชาเท่านั้นหลังอายุ 16 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายชัดเจน ส่วนเด็กไทยที่คุ้นกับการเรียนหลายวิชาแบบกว้าง ๆ อาจต้องปรับตัวกับการตัดสินใจเร็วขึ้นในเส้นทางวิชาการ

แล้วควรเริ่มเรียนเมื่อไหร่ดี?

  • อายุ 11–13 ปี: เหมาะกับการเข้าเรียนในโรงเรียนประจำชั้นนำของอังกฤษ (Year 7–9)

  • อายุ 14 ปี: เริ่มต้นโปรแกรม GCSEs ที่ใช้เวลา 2 ปี

  • อายุ 16 ปี: เข้าเรียน A Levels หรือ IB ได้โดยตรง (Sixth Form)

  • อายุ 17–18 ปี: เริ่มเรียน Foundation Year หรือ IY1 เพื่อเป็นสะพานสู่มหาวิทยาลัย

เมื่อเข้าใจโครงสร้างการศึกษาของอังกฤษแล้ว ครอบครัวไทยก็สามารถวางแผนเลือกจุดเริ่มต้นที่เหมาะสม ไม่ว่าจะยังเรียนอยู่ในระดับมัธยม หรือตั้งใจวางแผนเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยโดยตรง

โรงเรียนประจำในสหราชอาณาจักร – สำหรับนักเรียนไทย

ลองนึกภาพโรงเรียนที่นักเรียนใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน สวมเครื่องแบบโรงเรียนที่อยากใส่ และรายล้อมด้วยครูที่ไม่ใช่แค่ผู้สอน แต่ยังเป็นที่ปรึกษาหรือครอบครัวที่สองในชีวิตด้วย นั่นแหละคือโลกของ โรงเรียนประจำในอังกฤษ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวิชาการเข้มข้น การพัฒนาตัวตน และประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน

โรงเรียนประจำไม่ใช่แค่ที่เรียนหนังสือ แต่เป็นสถานที่ที่นักเรียนใช้ชีวิต เรียนรู้ และเติบโตไปพร้อมกัน มักตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หรือใกล้เมืองประวัติศาสตร์ โรงเรียนเหล่านี้เปิดรับทั้งนักเรียนอังกฤษและนักเรียนต่างชาติ โดยมีที่พัก อาหาร กีฬา ดนตรี และการดูแลด้านชีวิตความเป็นอยู่ครบถ้วนในที่เดียว

สำหรับครอบครัวไทย การส่งบุตรหลานไปเรียนที่โรงเรียนประจำในอังกฤษ หมายถึงการเปิดประตูสู่โอกาสมากกว่าการเรียนที่เข้มข้น:

  • ฝึกภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น ด้วยการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา

  • เรียนรู้ระเบียบวินัย ความเป็นอิสระ และความมั่นใจในตัวเอง

  • มีเพื่อนจากทั่วโลก สร้างมุมมองและความเข้าใจในระดับสากล

  • ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากครูประจำบ้าน อาจารย์พี่เลี้ยง และโปรแกรมภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติ (EAL)

โรงเรียนประจำในอังกฤษสอนตามหลักสูตรของอังกฤษ โดยมีเส้นทางการเรียนหลักคือ GCSEs, A Levels หรือ IB Diploma ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน

เคล็ดลับ: ลองดูในไดเรกทอรีโรงเรียนประจำของเรา เพื่อค้นหาโรงเรียนที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนไทย

โรงเรียนเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านผลการเรียนที่โดดเด่น อัตราการเข้ามหาวิทยาลัยที่สูง และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนต่างชาติ

ช่วงอายุที่นักเรียนไทยนิยมเข้าเรียน:

  • อายุ 11 ปีขึ้นไป (Year 7) – เริ่มต้นระดับมัธยมศึกษา

  • อายุ 13 ปีขึ้นไป (Year 9) – จุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับชีวิตโรงเรียนประจำ

  • อายุ 16 ปีขึ้นไป (Year 12) – เข้าสู่ Sixth Form เพื่อเรียน A Levels หรือ IB

ไม่ว่านักเรียนจะมีเป้าหมายเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง Oxford หรือแค่ต้องการสร้างมิตรภาพตลอดชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นระบบ โรงเรียนประจำในอังกฤษก็พร้อมมอบรากฐานที่มั่นคงให้ตลอดเส้นทางชีวิต

การเรียนมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร

การเรียนระดับปริญญาในสหราชอาณาจักรถือเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสทางการศึกษาและการทำงานในระดับโลก ด้วยวุฒิการศึกษาที่ได้รับการยอมรับสากล ระบบการเรียนคุณภาพสูง และเส้นทางอาชีพที่น่าจับตามอง

มหาวิทยาลัยในอังกฤษส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเจาะลึกเฉพาะสาขาวิชา แตกต่างจากระบบที่เน้นการท่องจำ นักเรียนจะได้รับการฝึกฝนให้ตั้งคำถาม วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริง

โครงสร้างการเรียนเน้นการเรียนผ่านเลกเชอร์ เซมินาร์ และการเรียนแบบตัวต่อตัว (tutorial) แต่นักเรียนยังต้องบริหารเวลาของตัวเอง ทำวิจัยอิสระ และทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อนในหลักสูตร

ระยะเวลาหลักสูตร

  • ปริญญาตรี: โดยทั่วไปใช้เวลา 3 ปี

  • Foundation + ปริญญาตรี: รวมประมาณ 4 ปี

  • ปริญญาโท: ส่วนใหญ่เรียน 1 ปี

  • Sandwich course: หลักสูตรที่มีการฝึกงาน 1 ปี (มักพบบ่อยในสาขาธุรกิจและวิศวกรรม)

มหาวิทยาลัยยอดนิยมในหมู่นักเรียนไทย

  • University of Manchester

  • University of Birmingham

  • University of Edinburgh

  • King’s College London

  • University of the Arts London

  • Queen Mary University of London

การสนับสนุนนักเรียนไทย

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักมีสำนักงานนักเรียนต่างชาติ (International Office) และชมรมนักเรียนไทยที่จัดกิจกรรมวัฒนธรรม ระบบพี่เลี้ยง และกิจกรรมสร้างเครือข่ายต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้นักเรียนใหม่ปรับตัวได้ง่ายขึ้น ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ และรู้สึกใกล้ชิดแม้อยู่ไกลบ้าน

โอกาสทำงานหลังเรียนจบ

วุฒิการศึกษาจากสหราชอาณาจักรได้รับการยอมรับทั่วโลก นักเรียนไทยจำนวนมากเลือกอยู่ต่อภายใต้วีซ่า Graduate Route ซึ่งอนุญาตให้ทำงานในอังกฤษต่อได้อีก 2 ปีหลังเรียนจบ ขณะที่บางคนเลือกกลับประเทศไทยพร้อมด้วยวุฒิที่โดดเด่นและเป็นที่ต้องการของตลาดงาน

การสมัครเรียนต่อประเทศอังกฤษ

สมัครเข้าโรงเรียนประจำในอังกฤษ

โรงเรียนประจำส่วนใหญ่มักรับสมัครล่วงหน้า 1–2 ปี โดยทั่วไปเอกสารและขั้นตอนที่ต้องเตรียม ได้แก่:

  • รายงานผลการเรียนล่าสุด

  • ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (เช่น UKiset หรือแบบทดสอบเฉพาะของแต่ละโรงเรียน)

  • การสัมภาษณ์ (ออนไลน์หรือพบตัว)

  • แบบฟอร์มสมัครเรียนและค่าธรรมเนียมการสมัคร

  • บางโรงเรียนอาจมีการสอบเข้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะในระดับ Year 9 หรือ Year 12

สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในอังกฤษ

การสมัครมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรใช้ระบบกลางที่เรียกว่า UCAS นักเรียนสามารถเลือกสมัครได้สูงสุด 5 หลักสูตร โดยยื่นใบสมัครเพียงครั้งเดียว เอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่:

  • ใบแสดงผลการเรียน

  • คะแนนคาดการณ์ (Predicted Grades)

  • ผลสอบภาษาอังกฤษ (โดยทั่วไปใช้ IELTS UKVI)

  • Personal Statement (เรียงความแนะนำตัวและแรงบันดาลใจ)

  • จดหมายรับรองจากอาจารย์

กำหนดเวลาสำคัญ

  • 15 ตุลาคม: สำหรับ Oxbridge (Oxford & Cambridge), แพทย์, ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์

  • 31 มกราคม: สำหรับหลักสูตรทั่วไปส่วนใหญ่

  • กำหนดเวลายืดหยุ่น: สำหรับหลักสูตร Foundation และมหาวิทยาลัยเอกชนบางแห่ง

การหาหลักสูตรที่ใช่ มหาวิทยาลัยที่เหมาะสม และจัดการกับเส้นตายต่าง ๆ อาจรู้สึกซับซ้อนสำหรับหลายครอบครัว แต่ไม่ต้องกังวล — ที่ Britannia เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาฟรีทุกขั้นตอน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ากำลังเดินมาถูกทาง

ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรีจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่ออังกฤษ

การใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักรในฐานะนักเรียนไทย

เช้าวันแรกของคุณในอังกฤษ อากาศเย็นสดชื่น เสียงกระดิ่งดังแว่ว ๆ หรืออาจเป็นนาฬิกาปลุกในมือถือ ไม่ว่าคุณจะก้าวเข้าสู่โรงเรียนประจำเก่าแก่ หรือกำลังจัดกระเป๋าในหอพักมหาวิทยาลัย สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ: ชีวิตที่นี่มีจังหวะของตัวเอง

ถ้าอยู่โรงเรียนประจำ

ชีวิตในโรงเรียนมีโครงสร้างชัดเจน ตื่นเช้า กินข้าว เข้ารวมตัวตอนเช้า จากนั้นก็เรียน สลับกับมื้อกลางวัน กีฬา เวลาทบทวนบทเรียน และกิจกรรมช่วงเย็น คุณจะอยู่ท่ามกลางเพื่อน ครู และเจ้าหน้าที่ดูแลประจำบ้านที่รู้จักคุณดี พร้อมช่วยเหลือหากคุณมีอะไรไม่สบายใจ

เรียนและใช้ชีวิตอยู่ที่เดียวกันแบบไม่ต้องกังวลว่าจะเหงา

ถ้าอยู่มหาวิทยาลัย

ชีวิตจะเปิดกว้างมากขึ้น คุณคือผู้กำหนดตารางของตัวเอง จะเลือกอยู่หอพักนักศึกษากับเพื่อนใหม่ อยู่โฮมสเตย์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน หรือเช่าห้องส่วนตัวแบบอิสระเต็มที่ ก็ขึ้นอยู่กับคุณ

อิสระมาไว แต่ความรับผิดชอบก็มาด้วยเช่นกัน ทั้งเรื่องบริหารเวลา ทำอาหาร จัดการค่าใช้จ่าย และหาจุดสมดุลระหว่างเรียนกับชีวิต สิ่งเหล่านี้คือบทเรียนสำคัญที่นอกเหนือจากในห้องเรียน

นอกห้องเรียนก็มีสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

กิจกรรมชมรม กีฬาช่วงเย็น ทริปวันหยุดสุดสัปดาห์ และสมาคมนักเรียนไทยที่มีอยู่ในหลายโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีแค่ไว้ให้หายเหงา หรือหายคิดถึงบ้าน แต่เป็นเหมือนครอบครัวที่สองในต่างแดน

ค่าใช้จ่ายก็แตกต่างกันไปตามเมือง

  • ลอนดอน: เมืองใหญ่ คึกคัก แต่ค่าครองชีพสูง

  • เมืองอื่น ๆ เช่น Sheffield, Coventry, Southampton: สงบกว่า ค่าเช่าถูกกว่า

โดยรวมแล้ว ค่าครองชีพอยู่ที่ประมาณ £800–£1,300 ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน

ส่วนใหญ่นักเรียนไทยมักจะปรับตัวได้เร็ว เพราะมีทั้งร้านไทยใกล้ที่พัก อาหารไทยที่กินเมื่อไหร่ก็ฮีลใจ วันเสาร์อาทิตย์อาจได้แวะไปสถานที่น่าสนใจใกล้ ๆ สักแห่ง จนสุดท้าย อังกฤษไม่ใช่แค่ “ที่เรียน” แต่กลายเป็น “บ้านอีกหลัง” ที่น่าจดจำและชวนให้คิดถึงเมื่อเรียนจบ

ไม่ว่าคุณจะอายุ 14 หรือ 21 ปี การมาเรียนที่นี่ ไม่ได้มีแค่เรื่องเกรด
แต่คือ “ประสบการณ์” ที่จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต

ป.ล. อยากเห็นไหมว่าชีวิตนักเรียนไทยในอังกฤษเป็นยังไง? เรามีวิดิโอให้ดูด้วยนะ!

สรุปการเรียนที่อังกฤษคุ้มค่ากับการลงทุนไหม?

ไม่ว่าจะเริ่มจากโรงเรียนประจำที่มีระบบเป๊ะ ๆ หรือมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้างให้ลองใช้ชีวิตเอง เส้นทางการเรียนที่อังกฤษมันเริ่มตั้งแต่เรากล้าตัดสินใจเลือกที่นี่ มันไม่ใช่แค่เรื่องนั่งเรียนหรือสอบให้ผ่านแต่มันคือการโตขึ้น ได้รู้จักคนจากหลายประเทศ และได้รู้ว่า…เราชอบอะไร อยากเป็นอะไร สำหรับนักเรียนไทยที่อยากลองก้าวออกจากกรอบเดิม ๆ
อังกฤษให้ทั้งโอกาส ความอิสระ และประสบการณ์ที่หาจากที่อื่นไม่ได้ง่าย ๆ

สรุปแบบไม่ต้องคิดเยอะ ถ้าคุณเปิดใจ และพร้อมเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน
มันคุ้มแน่นอน

พูดคุยกับเราเพื่อปรึกษาเรื่องการเรียนต่อที่อังกฤษกับผู้เชี่ยวชาญ

อยากไปเรียนอังกฤษ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? พูดคุยกับเรา ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!