อัพเดท! เรียนต่อหลักสูตรด้านเคมี (Chemistry) ที่สหราชอาณาจักร 2025
เรียนต่อหลักสูตรด้านเคมี (Chemistry) ที่สหราชอาณาจักร บทความนี้รวมสถาบันต่าง ๆ เช่น University of Edinburgh, University of Bath, Imperial College London, University of St Andrews และ University of Manchester มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศทางวิชาการและการวิจัยล้ำสมัย มอบสภาพแวดล้อมการเรียนที่ดีสำหรับการเรียนรู้และนวัตกรรมให้แก่นักศึกษา มาสำรวจไปพร้อมๆกับเราเกี่ยวกับจุดเด่นที่ทำให้สถาบันเหล่านี้แตกต่างในสายเคมีที่อื่น และมอบประสบการณ์การศึกษาที่โดดเด่นสำหรับผู้อยากทำงานในสายอาชีพเกี่ยวกับเคมี
Table of Contents
ทำไมต้องเรียนสาขาเคมีที่สหราชอาณาจักร
การเรียนเคมีในสหราชอาณาจักรถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรเป็นที่ยอมรับในระดับโลก และมุ่งมั่นในด้านความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ โปรแกรมเคมีที่มีความหลากหลายช่วยให้นักศึกษาสามารถเลือกรูปแบบการเรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจเฉพาะด้านของตนเองได้ ขณะเดียวกัน มีความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์จริงและเพิ่มโอกาสในการได้งานอีกด้วย นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม วัฒนธรรมของสหราชอาณาจักรยังช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ทางการศึกษาอย่างรอบด้าน เตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาในการประกอบอาชีพในวงการวิทยาศาสตร์ระดับโลก
นอกจากนี้ ปริญญาด้านเคมีจากสหราชอาณาจักรยังได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ซึ่งเปิดประตูสู่โอกาสทางอาชีพทั่วโลก โอกาสการทำงานหลังเรียนจบในสหราชอาณาจักรช่วยให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์จริงและสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการประสบความสำเร็จในสายงานเคมีที่มีการแข่งขันสูง กล่าวโดยสรุป การเรียนเคมีในสหราชอาณาจักรไม่เพียงรับประกันการศึกษาในระดับแนวหน้า แต่ยังมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง และวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับอาชีพที่เจริญรุ่งเรืองในโลกแห่งการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์อันเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง
มหาวิทยาลัยชั้นนำสาขาเคมีในสหราชอาณาจักร
รายชื่อมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดสำหรับปริญญาเคมีในสหราชอาณาจักร ประจำปี 2025:
University of Edinburgh
University of Bath
Imperial College London
University of St Andrews
University of Manchester
รีวิวหลักสูตรเคมี University of Edinburgh
The University of Edinburgh มีชื่อเสียงในด้านการเน้นการวิจัยและความเป็นเลิศทางวิชาการในสาขาเคมี The School of Chemistry
ของที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยสำหรับนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา งานวิจัยครอบคลุมหลายสาขา เช่น เคมีสังเคราะห์ เคมีชีวภาพ และเคมีวัสดุ ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในด้านการสอนและการวิจัยขั้นสูงทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนักเคมี
เกณฑ์การรับเข้าเรียนมาตรฐาน:
SQA Highers: AAAB ภายในสิ้นปี S5 หรือ AAAA ภายในสิ้นปี S6 โดยต้องได้ BBB ภายในหนึ่งปีในช่วง S4-S6
A Levels: AAA – ABB
IB: 37 คะแนน โดยได้ 666 ในวิชา HL หรือ 32 คะแนน โดยได้ 555 ในวิชา HL
รีวิวหลักสูตรเคมี University of Bath
University of Bath มีภาควิชาเคมีที่มีชีวิตชีวาและมีพลวัต โดดเด่นในด้านการวิจัยเชิงนวัตกรรมและวิธีการสอนที่ทันสมัย ภาควิชาเน้นความร่วมมือระหว่างสาขาวิชา โดยมีงานวิจัยในด้านเคมีเภสัชกรรม นาโนเทคโนโลยี และเทคโนโลยีเคมีอย่างยั่งยืน ความเชื่อมโยงอันแข็งแกร่งกับอุตสาหกรรมยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกงานและลงสนามจริงอีกด้วย
รีวิวหลักสูตรเคมี Imperial College London
Imperial College London มักได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก และภาควิชาเคมีของที่นี่ก็ไม่เป็นรองใคร ด้วยคณาจารย์และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก Imperial College มุ่งเน้นไปที่เคมีประยุกต์ โดยมีจุดแข็งในด้านเคมีชีวภาพ การเร่งปฏิกิริยา และเคมีวัสดุ นักศึกษาได้รับประสบการณ์จากการมีส่วนร่วมในการวิจัยล้ำสมัยและความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม
Entry standard นักเรียนที่ต้องการสมัครต้องได้เกรด AAA ใน A-levels โดยต้องได้เกรด A ในวิชาเคมี, A ในคณิตศาสตร์ และ A ในวิชาที่สาม โดยวิชาที่แนะนำ ได้แก่ ชีววิทยา เศรษฐศาสตร์ คณิตศาสตร์เพิ่มเติม หรือฟิสิกส์
รีวิวหลักสูตรเคมี University of St Andrews
University of St Andrews มี School of Chemistry ที่มีชื่อเสียงและประวัติศาสตร์อันยาวนานในด้านการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ความสำคัญทั้งด้านการสอนและการวิจัย มอบการศึกษาที่สมดุลให้กับนักศึกษา งานวิจัยครอบคลุมตั้งแต่เคมีอินทรีย์ ชีวเคมี จนถึงเคมีสิ่งแวดล้อม สภาพแวดล้อมทางวิชาการที่แน่นแฟ้นและบรรยากาศในมหาวิทยาลัยยิ่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับนักศึกษา
หลักสูตรปริญญาตรีที่เปิดสอนใน School of Chemistry ได้แก่:
Chemistry BSc (Hons)
Chemistry MChem (Hons)
Chemical Sciences BSc (Hons)
Chemistry with Medicinal Chemistry BSc (Hons)
Chemistry with Medicinal Chemistry MChem (Hons)
Materials Chemistry BSc (Hons)
Materials Chemistry MChem (Hons)
Sustainable Development BSc (Hons)
Sustainable Development MA (Hons)
รีวิวหลักสูตรเคมี University of Manchester
School of Chemistry แห่ง University of Manchester มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการวิจัยและการพัฒนาในวงการเคมี ด้วยสภาพแวดล้อมการวิจัยที่มีชีวิตชีวาและหลากหลาย นักศึกษามีโอกาสมีส่วนร่วมในโครงการล้ำสมัยในหลายแขนง อาทิ เคมีวิเคราะห์ วิทยาศาสตร์วัสดุ และเคมีทฤษฎี ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและโครงการวิจัยร่วมต่าง ๆ ทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของผู้ที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักเคมี
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องปฏิบัติการสมัยใหม่ รวมถึง:
ห้องแล็บสังเคราะห์ขั้นสูงสำหรับทำโปรเจกต์
เครื่อง NMR ที่จัดไว้ใช้เฉพาะสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี
ชุดอุปกรณ์วิเคราะห์เฉพาะทาง
เครื่องมือ HPLC 3 เครื่อง และ HPLC-MS 1 เครื่อง สำหรับศึกษาการวัดและการแยกสาร
เครื่อง Spectrophotometer 10 เครื่อง และชุด Infra-red Spectrometer สำหรับวัดของแข็ง ของเหลว และก๊าซ
อันดับมหาวิทยาลัยเคมีในสหราชอาณาจักร ปี 2025
รายชื่อมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักรด้านเคมีในปี 2025:
| University Ranking | University Name | Overall Score | Entry Standards | Student Satisfaction | Research Quality | Graduate Prospects |
|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | University of Cambridge | 100% | 100% | n/a | 93% | 94% |
| 2 | University of Oxford | 98% | 92% | n/a | 91% | 95% |
| 3 | University of St Andrews | 96% | 94% | 83% | 89% | 94% |
| 4 | Durham University | 95% | 85% | 78% | 85% | 92% |
| 5 | Imperial College London | 95% | 86% | 81% | 92% | 91% |
| 6 | The University of Edinburgh | 94% | 82% | 74% | 89% | 95% |
| 7 | University of York | 94% | 75% | 80% | 90% | 90% |
| 8 | University of Bristol | 93% | 79% | 74% | 94% | 85% |
| 9 | University of Bath | 93% | 76% | 79% | 88% | 88% |
| 10 | University of Glasgow | 92% | 92% | 73% | 84% | 91% |
| 11 | University of Strathclyde | 92% | 95% | 84% | 85% | 87% |
| 12 | UCL (University College London) | 92% | 81% | 74% | 92% | 83% |
| 13 | Swansea University | 92% | 62% | 93% | 79% | 95% |
| 14 | University of Birmingham | 92% | 68% | 81% | 83% | 87% |
| 15 | University of Manchester | 92% | 73% | 73% | 91% | 86% |
| 16 | University of Southampton | 92% | 66% | 77% | 87% | 87% |
| 17 | Queen's University Belfast | 91% | 72% | 77% | 82% | 92% |
| 18 | University of Liverpool | 91% | 66% | 76% | 91% | 88% |
| 19 | University of Warwick | 91% | 68% | 77% | 88% | 86% |
| 20 | University of Nottingham | 91% | 65% | 75% | 86% | 88% |
| 21 | University of East Anglia UEA | 91% | 57% | 71% | 84% | 98% |
| 22 | Loughborough University | 90% | 68% | 81% | 76% | 87% |
| 23 | University of Leeds | 90% | 66% | 75% | 83% | 89% |
| 24 | Newcastle University | 90% | 60% | 72% | 87% | 89% |
| 25 | University of Sheffield | 90% | 65% | 78% | 87% | 87% |
| 26 | Keele University | 90% | 56% | 81% | 82% | 90% |
| 27 | University of Surrey | 90% | 56% | 82% | 83% | 81% |
| 28 | Cardiff University | 89% | 64% | 72% | 86% | 85% |
| 29 | Northumbria University, Newcastle | 89% | 60% | 84% | 80% | 94% |
| 30 | University of Sussex | 89% | 62% | 78% | 79% | 80% |
| 31 | King's College London, University of London | 89% | 70% | 65% | 91% | 78% |
| 32 | University of Lincoln | 89% | 57% | 89% | 77% | 87% |
| 33 | Aston University, Birmingham | 89% | 51% | 86% | 74% | 90% |
| 34 | University of Plymouth | 89% | 54% | 83% | 79% | 84% |
| 35 | University of Leicester | 89% | 55% | 82% | 84% | 86% |
| 36 | Queen Mary University of London | 89% | 60% | 79% | 88% | 75% |
| 37 | Lancaster University | 88% | 63% | 80% | 74% | 79% |
| 38 | Manchester Metropolitan University | 88% | 58% | 80% | 79% | 82% |
| 39 | Heriot-Watt University | 87% | 79% | 78% | 74% | 78% |
| 40 | University of Kent | 87% | 49% | 80% | 78% | 83% |
| 41 | University of Reading | 86% | 53% | 74% | 77% | 80% |
| 42 | Nottingham Trent University | 86% | 55% | 79% | 85% | 73% |
| 43 | Sheffield Hallam University | 86% | 51% | 82% | 63% | 90% |
| 44 | University of Aberdeen | 86% | 80% | n/a | 79% | 75% |
| 45 | University of Salford | 86% | 54% | 77% | 74% | 76% |
| 46 | University of Central Lancashire | 86% | 56% | 77% | 70% | 83% |
| 47 | University of Huddersfield | 85% | 57% | 80% | 63% | 79% |
| 48 | University of Bradford | 84% | 54% | 73% | 71% | 76% |
| 49 | University of South Wales | 84% | n/a | 76% | 70% | 72% |
| 50 | University of Greenwich | 84% | 60% | n/a | 66% | 87% |
| 51 | Kingston University | 82% | 43% | 79% | 76% | 70% |
| 52 | De Montfort University | 79% | 41% | 67% | n/a | 72% |
การจัดอันดับใช้เกณฑ์ใดในการวัดผล?
วิธีการจัดอันดับรวมตัวชี้วัดหลักหลายประการ เช่น คุณภาพการสอน ผลลัพธ์และชื่อเสียงด้านการวิจัย ความร่วมมือกับอุตสาหกรรม ความหลากหลายนานาชาติ และการอ้างอิงจากงานวิจัย ตัวชี้วัดเหล่านี้ช่วยประเมินสภาพแวดล้อมทางวิชาการ ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญของคณาจารย์ และผลกระทบในระดับโลก การจัดอันดับยังพิจารณาจากความพึงพอใจของนักศึกษา การจ้างงานของบัณฑิต และอิทธิพลของงานวิจัยอีกด้วย
ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกโปรแกรมเคมี
เมื่อเลือกโปรแกรมเคมี ควรพิจารณาองค์ประกอบสำคัญ เช่น ความหลากหลายของหลักสูตรและความเชี่ยวชาญของคณาจารย์ โดยเน้นประสบการณ์ปฏิบัติในห้องแล็บ ตรวจสอบว่ามีทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยหรือไม่ รวมถึงชื่อเสียงของโปรแกรม การได้รับการรับรอง และความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมสำหรับโอกาสฝึกงาน ควรดูด้วยว่ามีความยืดหยุ่นในการเลือกเฉพาะทางหรือไม่ และพิจารณาปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งและค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้ประสบการณ์การศึกษาที่รอบด้าน สอดคล้องกับเป้าหมายทางวิชาการและอาชีพในสาขาเคมี
โอกาสทางอาชีพสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาเคมี
ผู้สำเร็จการศึกษาด้านเคมีมีโอกาสทำงานที่หลากหลายและมีคุณค่าในหลายอุตสาหกรรม ในด้านการวิจัยและพัฒนา พวกเขามีส่วนร่วมในกระบวนการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และความก้าวหน้า โดยทำงานในภาคยา วิทยาศาสตร์วัสดุ และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม หลายคนเข้าสู่อุตสาหกรรมยาและการดูแลสุขภาพ ทำงานด้านการพัฒนายา การควบคุมคุณภาพ และเคมีวิเคราะห์
อุตสาหกรรมการผลิตสารเคมีเปิดโอกาสในด้านการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ และการควบคุมคุณภาพ หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมและบริษัทที่ปรึกษาต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีในบทบาทที่เกี่ยวกับการติดตามสิ่งแวดล้อม การควบคุมมลพิษ และความยั่งยืน นอกจากนี้ อาชีพในด้านนิติวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และการศึกษาวิทยาศาสตร์ก็เป็นเส้นทางที่พบได้ทั่วไป ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านเทคโนโลยี การวิเคราะห์ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ ยังทำให้ผู้จบเคมีเป็นที่ต้องการในสายงานด้านวิทยาการข้อมูล การวิเคราะห์ และการพัฒนาเทคโนโลยีอีกด้วย โดยรวมแล้ว วุฒิการศึกษาเคมีเปิดประตูสู่อาชีพที่หลากหลาย ทำให้ผู้สำเร็จการศึกษาพร้อมสำหรับเส้นทางอาชีพที่มีพลังและส่งผลกระทบ
หัวข้อวิทยานิพนธ์สำหรับสาขาเคมี
การสังเคราะห์และการวิเคราะห์สารประกอบอินทรีย์ใหม่ที่มีศักยภาพในการใช้ทางการแพทย์
การพัฒนาแนวทางการสังเคราะห์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเคมีอินทรีย์
การสำรวจเคมีประสาน: การออกแบบและศึกษาสารเชิงซ้อนของโลหะทรานซิชัน
การประยุกต์ใช้วัสดุอนินทรีย์ในตัวเร่งปฏิกิริยาและการจัดเก็บพลังงาน
การศึกษาทางโครงสร้างและการทำงานของ [โมเลกุลชีวภาพหรือเอนไซม์เฉพาะเจาะจง]
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเคมีในสหราชอาณาจักร
เคมีเป็นสาขาวิชาที่สามารถเปิดประตูสู่อาชีพมากมาย ทั้งในห้องปฏิบัติการและนอกห้องปฏิบัติการ โดยผู้ที่จบการศึกษาด้านเคมีสามารถทำงานในหลากหลายภาคส่วน เช่น การวิจัยทางการแพทย์ การผลิต และการศึกษา อาชีพยอดนิยมสำหรับผู้เรียนเคมี ได้แก่ นักเคมีวิเคราะห์
นักวิจัยเคมี
นักเคมีวิเคราะห์
ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์
วิศวกรเคมี
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมคุณภาพ
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยด้านอาหาร
นักพิษวิทยา
นักเภสัชวิทยา
สมัครเรียนสาขาเคมีที่มหาวิทยาลัยใน UK ได้แล้ววันนี้!
ปรึกษาเรื่องเรียนต่อหรือวางแผนการเรียนกับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อที่ UK ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครเรียนสาขาเคมีที่มหาวิทยาลัยใน UK ได้แล้ววันนี้!
ปรึกษาเรื่องเรียนต่อหรือวางแผนการเรียนกับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อที่ UK ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย