อัพเดท! มหาวิทยาลัยชั้นนำใน UK สาขาชีวการแพทย์ 2025

อัพเดท! มหาวิทยาลัยชั้นนำใน UK สาขาชีวการแพทย์ 2025

การเรียนสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ คือการเปิดประตูสู่โลกแห่งการค้นคว้าวิจัย เทคโนโลยีล้ำสมัย และการค้นพบใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงวงการแพทย์
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหราชอาณาจักรที่มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนและงานวิจัยในสาขานี้ หากคุณสนใจ ในเรื่องร่างกายมนุษย์ เพื่อพัฒนาแนวทางการรักษา หรือมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์ความรู้ทางการแพทย์ – บทความนี้คุณไม่ควรพลาด!

อัพเดท! มหาวิทยาลัยชั้นนำใน UK สาขาชีวการแพทย์ 2025

Table of Contents

ทำไมถึงควรเรียนสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์?

การเรียนสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักศึกษาที่มีใจรักในการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ความก้าวหน้าทางการแพทย์ และการพัฒนาสุขภาพของมนุษย์ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้สาขานี้เป็นทางเลือกที่มีคุณค่าสำหรับอนาคต:

  1. เปิดโลกสู่ความรู้ทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย
    วิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์เป็นหนึ่งในสาขาหลักที่ขับเคลื่อนงานวิจัยทางการแพทย์ นักศึกษาในสาขานี้จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวชีววิทยามนุษย์ โรคภัยต่าง ๆ และการทำงานที่ซับซ้อนของร่างกายมนุษย์ ด้วยปริญญาด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ คุณจะมีโอกาสมีส่วนร่วมในการค้นพบที่สำคัญ คิดค้นแนวทางการรักษาใหม่ ๆ และช่วยพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพและโรคได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  2. มีส่วนร่วมในการยกระดับสุขภาพของมนุษย์
    วิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการพัฒนาผลลัพธ์ด้านสุขภาพของมนุษย์ การเรียนในสาขานี้เปิดโอกาสให้คุณมีส่วนร่วมในการพัฒนายาและการรักษาที่ช่วยชีวิต เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย และเครื่องมือวินิจฉัยรูปแบบใหม่ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ คุณสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่เป็นรูปธรรมต่อชีวิตของผู้คนและสังคมได้จริง
  3. สาขาที่มีพลศาสตร์และสหสาขาวิชาชีพ
    วิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์รวมเอาหลายสาขาวิชาเข้าด้วยกัน เช่น ชีววิทยา เคมี ระดับพันธุกรรม เภสัชศาสตร์ และสรีรวิทยา เป็นต้น การผสมผสานระหว่างหลายสาขาวิชานี้ช่วยให้คุณเข้าใจสุขภาพและโรคของมนุษย์ได้อย่างรอบด้าน ทำให้คุณพัฒนาทักษะที่หลากหลายและมีความรู้พื้นฐานที่กว้างขวาง ความหลากหลายนี้เปิดโอกาสให้คุณมีทางเลือกในอาชีพในภาคการดูแลสุขภาพและงานวิจัยได้อย่างกว้างขวาง

งานด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ใน UK

การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์เปิดโอกาสให้คุณได้ทำงานในอาชีพที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่าในภาคอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและการวิจัยที่กำลังเติบโตของสหราชอาณาจักร นี่คือลักษณะงานบางประการที่ผู้สำเร็จการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์สามารถเลือกทำได้:

  • นักวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ (Biomedical Scientist) นักวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์มีบทบาทสำคัญในการวินิจฉัยและติดตามผลการเจ็บป่วย โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้ป่วย การทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ และการตีความผลลัพธ์ พวกเขาทำงานในโรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการทางคลินิก และสถาบันวิจัย โดยใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และทักษะทางเทคนิคในการมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยและงานวิจัยทางการแพทย์

  • นักวิจัยคลินิก (Clinical Research Associate – CRA) นักวิจัยคลินิกมีส่วนร่วมในการวางแผน การประสานงาน และการจัดการการทดลองทางคลินิก พวกเขามั่นใจว่าการศึกษาวิจัยดำเนินการตามหลักจริยธรรมอย่างถูกต้องและปลอดภัย และปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด นักวิจัยคลินิกทำงานร่วมกับทีมวิจัย ตรวจสอบความคืบหน้าของการทดลอง เก็บรวบรวมข้อมูล และมั่นใจในคุณภาพและความถูกต้องของผลการวิจัย

  • นักวิทยาศาสตร์วิจัยเภสัชกรรม (Pharmaceutical Research Scientist) นักวิทยาศาสตร์วิจัยเภสัชกรรมทำงานในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม โดยทำการวิจัยเพื่อพัฒนายาใหม่ ๆ ทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยา พวกเขาออกแบบการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูล และมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการยาใหม่ ๆ ที่สามารถปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยและพัฒนาการรักษาทางการแพทย์

  • ตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ (Medical Sales Representative) ตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบริษัทเภสัชกรรมหรืออุปกรณ์การแพทย์กับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ พวกเขาทำการโปรโมตและขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ พร้อมทั้งให้ข้อมูล การสาธิต และการสนับสนุนแก่ผู้ให้บริการด้านการแพทย์ งานนี้ต้องการทักษะการสื่อสารที่แข็งแกร่ง ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

  • เทคนิคการห้องปฏิบัติการ (Laboratory Technician) เทคนิคการห้องปฏิบัติการช่วยสนับสนุนงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดยการทำการทดลอง ทดสอบในห้องปฏิบัติการ และดูแลรักษาอุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ พวกเขาช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยในสาขาต่าง ๆ

  • ผู้ช่วยด้านวิทยาศาสตร์การดูแลสุขภาพ (Healthcare Science Associate) ผู้ช่วยด้านวิทยาศาสตร์การดูแลสุขภาพทำงานร่วมกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ โดยให้การสนับสนุนทางเทคนิคและช่วยในการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วย พวกเขาอาจมีความเชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เช่น ฟิสิกส์การแพทย์ วิศวกรรมการแพทย์ หรือการวัดทางสรีรวิทยา

  • วิศวกรชีวการแพทย์ (Biomedical Engineer) วิศวกรชีวการแพทย์ผสมผสานหลักการวิศวกรรมเข้ากับวิทยาศาสตร์การแพทย์และชีววิทยา เพื่อออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขาเทียม และเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพอื่น ๆ พวกเขาทำงานในโครงการที่มุ่งเน้นการปรับปรุงการดูแลผู้ป่วย การเสริมสร้างการวินิจฉัย และนวัตกรรมในอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งมีส่วนในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์

  • นักวิทยาศาสตร์วิจัย (Research Scientist) นักวิทยาศาสตร์วิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์มุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ ผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการค้นพบและพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ ในการรักษาและวินิจฉัยโรค

รวมมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์

นี่คือรายชื่อมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหราชอาณาจักรสำหรับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ในปี 2025

University of Oxford Biomedical Science Review

หลักสูตรระดับปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ที่ University of Oxford เป็นหลักสูตรที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่น โดยครอบคลุมรายวิชาต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง เช่น พันธุศาสตร์ ชีววิทยาระดับโมเลกุลและเซลล์ สรีรวิทยา วิทยาศาสตร์ระบบประสาท จิตวิทยา และอีกมากมาย ปีแรกของหลักสูตรถูกออกแบบมาเพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้พื้นฐานที่หลากหลาย เพื่อสร้างความเข้าใจที่แข็งแกร่งก่อนเข้าสู่ปีที่สอง ซึ่งจะเริ่มมีความเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น หลังจากจบปีที่สอง นักศึกษาสามารถเลือกจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีได้ในสองสาย ได้แก่ ปริญญาตรีสาขาชีววิทยาของเซลล์ (Cell and Systems Biology) หรือปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์ระบบประสาท (Cell and Systems Biology or a BA degree in Neuroscience) จากนั้นยังสามารถเลือกเรียนต่อในปีที่สี่เพื่อสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ (MBiomedSci) ซึ่งเปิดโอกาสให้ได้ทำวิจัยเชิงลึกและพัฒนาความเชี่ยวชาญในระดับสูงต่อไป

Lancaster University Biomedical Science Review

หลักสูตรปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ (BSc Biomedical Science) ของ Lancaster University ได้รับการรับรองจากสถาบัน Institute of Biomedical Science (IBMS) ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญของหลักสูตรนี้ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าถึงห้องปฏิบัติการของ NHS ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสู่สายอาชีพนักวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ในระบบสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร (NHS)

ตลอดระยะเวลาการเรียน นักศึกษาจะได้มีประสบการณ์ในการทำโครงการในห้องปฏิบัติการจริง โดยมีคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ผ่านประสบการณ์เหล่านี้ นักศึกษาจะได้มีส่วนร่วมในการวิจัยในหัวข้อต่าง ๆ เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหญ่ เต้านม และต่อมลูกหมาก โรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน ข้ออักเสบ รวมถึงภาวะและโรคอื่น ๆ ของมนุษย์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพหรือศึกษาต่อในสายงานด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ได้อย่างมั่นใจ

University of St Andrews Biomedical Science Review

หลักสูตรปริญญาโท MSc (Res) in Biology: Biomedical Sciences ที่ University of St Andrews เป็นหลักสูตรที่เน้นการวิจัย ใช้ระยะเวลาเรียนทั้งหมด 12 เดือน การสำเร็จการศึกษาขึ้นอยู่กับการจัดทำวิทยานิพนธ์ความยาว 30,000 คำ โดยตลอดหลักสูตร นักศึกษาจะได้มีโอกาสสัมผัสกับผลงานวิจัยระดับโลกที่สั่งสมมายาวนานหลายทศวรรษ ซึ่งมากกว่า 84% ของผลงานวิจัยที่นี่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นงานวิจัยระดับแนวหน้าของโลกหรือมีความยอดเยี่ยมในระดับนานาชาติ Biomedical Sciences Research Complex.

University College London Biomedical Science Review

หลักสูตรปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ (Biomedical Sciences BSc) ที่ UCL ถือเป็นหนึ่งในหลักสูตรที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยในปีแรกของหลักสูตร นักศึกษาจะต้องเรียนรายวิชาพื้นฐานที่จำเป็น เช่น กายวิภาคศาสตร์ ชีววิทยาระดับเซลล์และโมเลกุล เคมี พันธุศาสตร์ เภสัชวิทยา และสรีรวิทยา

หากคุณเป็นคนที่มีความสนใจเฉพาะทางอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น ก็สามารถยื่นขอเปลี่ยนไปยังหลักสูตรเฉพาะทางได้ แต่หากยังไม่แน่ใจ ก็สามารถเรียนต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์แบบปรับแต่งได้ตามความสนใจของแต่ละบุคคล

ในปีที่สาม นักศึกษาจะได้ทำโครงงานวิจัยภายใต้การดูแลของอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะร่วมทำงานกับกลุ่มวิจัยในภาควิชาต่าง ๆ ของคณะ หรือในสถาบันวิจัยด้านชีวการแพทย์ของ UCL เอง เพื่อให้ได้ประสบการณ์จริงในการทำงานวิจัยระดับมืออาชีพ

University of Aberdeen Biomedical Science Review

หลักสูตรปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ (BSc Biomedical Sciences) ที่มหาวิทยาลัย Aberdeen ได้รับการจัดอันดับอันดับ 1 ของสหราชอาณาจักรในสาขากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา จาก The Times & Sunday Times Good University Guide 2023 โดยมหาวิทยาลัยนี้มีหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์มากกว่า 10 หลักสูตรให้นักศึกษาสามารถเลือกเรียน

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกเรียนในหลักสูตร MSci ซึ่งใช้ระยะเวลา 5 ปี โดยในปีที่ 4 คุณจะได้เข้าฝึกงานในสภาพแวดล้อมจริง หรือการวิจัย และหลังจากเรียนจบครบ 5 ปี คุณจะได้รับปริญญา MSci ซึ่งเป็นปริญญาโทระดับปริญญาตรี แทนที่จะเป็นปริญญาตรี BSc แบบปกติ

The University of Edinburgh Biomedical Science Review

หลักสูตรปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ (BSc Biomedical Sciences) ที่ Edinburgh Medical School อยู่อันดับที่ 6 ในหมู่มหาวิทยาลัยทั่วสหราชอาณาจักร โดยหลักสูตรนี้มีระยะเวลา 4 ปีและให้นักศึกษามีโอกาสเข้าถึงห้องเรียนและห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย ซึ่งรวมถึง The Chancellor’s Building ที่ BioQuarter และ The Western General Hospital

ในปีที่สาม นักศึกษาจะมีโอกาสไปศึกษาต่อในยุโรป อเมริกาเหนือ หรือเอเชีย นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป มหาวิทยาลัยจะเริ่มนำการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ (virtual learning environment) เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Loughborough University Biomedical Science Review

หลักสูตรวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Biological Sciences) ที่มหาวิทยาลัย Loughborough สามารถสำเร็จการศึกษาได้ในระยะเวลา 3 ปี หรือ 4 ปี หากเลือกที่จะมีปีฝึกงาน นักศึกษาจะได้ศึกษาในหัวข้อสำคัญต่าง ๆ เช่น พันธุศาสตร์และชีววิทยาระดับโมเลกุล ชีวเคมีและการเผาผลาญ เซลล์ชีววิทยาและการแพทย์ฟื้นฟู วิวัฒนาการของมนุษย์ กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา และอื่น ๆ อีกมากมาย

หลักสูตรที่ครบถ้วนนี้จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาในการทำงานในอุตสาหกรรมด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ โดยมีการเรียนรู้ถึงหลักการพื้นฐานของชีวิตและสุขภาพในสิ่งมีชีวิตทั้งหมด นอกจากนี้ มหาวิทยาลัย Loughborough ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย มูลค่า 17 ล้านปอนด์ รวมถึงห้องปฏิบัติการเฉพาะทางอื่น ๆ ที่นักศึกษาจะได้ประโยชน์จากการใช้งานในด้านการศึกษาและการวิจัย

University of Bristol Biomedical Science Review

หลักสูตรปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ (BSc Biomedical Sciences) ที่มหาวิทยาลัย Bristol ถือเป็นหนึ่งในหลักสูตรชั้นนำของประเทศ โดยมหาวิทยาลัยเน้นทั้งในด้านความรู้ทางทฤษฎีและการพัฒนาทักษะทางปฏิบัติ นักศึกษาจะได้รับสิทธิ์เข้าถึง eBiolabs ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรห้องปฏิบัติการออนไลน์ที่ครอบคลุมที่สุดในโลกสำหรับนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ แหล่งข้อมูลนี้มีเฉพาะนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Bristol เท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาได้รับความรู้และประสบการณ์ที่สำคัญในห้องปฏิบัติการล่วงหน้า

University of Manchester Biomedical Science Review

หลักสูตรปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ (BSc Biomedical Sciences) ที่ University of Manchester ดึงดูดผู้สมัครประมาณ 7,000 คนทุกปี แต่มีที่ว่างเพียง 650 ที่เท่านั้น ข้อเสนอสำหรับนักศึกษาที่จบการศึกษาระดับ A level มักจะรวมถึงเกรด AAA-AAB ในสาขาวิชาเฉพาะ โดยหลักสูตรหลักที่นักศึกษาจะได้เรียนที่นี่ประกอบด้วย ชีวเคมี พันธุศาสตร์ จุลชีววิทยา กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา เซลล์ของระบบประสาท เภสัชวิทยา และชีววิทยาระดับโมเลกุล

นอกจากนี้ นักศึกษาปีสุดท้ายยังมีโอกาสที่จะเข้าร่วมทำวิจัยด้านชีววิทยาศาสตร์ระดับโลก ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีในสาขานี้ก่อนที่จะจบการศึกษา

University of Birmingham Biomedical Science Review

หลักสูตรปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ที่มหาวิทยาลัย Birmingham อยู่อันดับที่ 17 ใน Complete University Guide 2025 ในตารางวิชาของมหาวิทยาลัย นักศึกษาจะได้เรียนรู้ตั้งแต่ระบบร่างกาย ไปจนถึงระดับเซลล์และโมเลกุล นอกจากนี้ นักศึกษายังสามารถเลือกเส้นทางการศึกษาของตัวเองผ่านทางเลือกในการจบการศึกษาหลายแบบ ตัวอย่างเช่น การเลือกวิชาเสริมในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ร่วมกับ Biomedical Entrepreneurship หรือ Biomaterials หรือแม้กระทั่งการเลือกเรียน Year in Computer Science หรือ Civic Leadership

มหาวิทยาลัยยังมีโอกาสในการทำวิจัยในมหาวิทยาลัยเอง รวมถึงโปรแกรมการแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในประเทศฝรั่งเศสหรือจีน ซึ่งช่วยให้ได้ประสบการณ์ด้านวิจัยและการศึกษาระดับสากล

Biomedical Science University Rankings in the UK (2025)

นี่คือมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ในสหราชอาณาจักรสำหรับปี 2025:

University RankingUniversity NameOverall ScoreEntry StandardsStudent SatisfactionResearch QualityGraduate Prospects
1University of Oxford100%96%79%89%94%
2University of Bath97%85%80%80%89%
3Lancaster University97%76%84%83%92%
4University of St Andrews97%98%80%81%n/a
5UCL (University College London)97%87%75%86%89%
6The University of Edinburgh96%92%76%90%88%
7Queen's University Belfast95%77%76%89%88%
8University of Bristol95%80%75%88%84%
9University of Sheffield95%75%78%90%87%
10Loughborough University95%77%78%88%84%
11University of Aberdeen95%89%84%74%90%
12University of Warwick95%72%78%81%91%
13University of Strathclyde95%100%78%83%86%
14Newcastle University95%74%76%85%87%
15Swansea University95%71%74%88%92%
16University of Manchester94%79%71%89%86%
17University of Birmingham94%73%73%85%87%
18University of Glasgow94%100%79%87%78%
19King's College London, University of London94%77%74%80%85%
20University of Exeter93%74%75%83%84%
21University of Southampton93%72%n/a82%79%
22University of Dundee93%88%76%93%79%
23University of Surrey93%63%78%84%89%
24University of Huddersfield93%64%75%67%95%
25University of Liverpool92%69%76%82%82%
26Ulster University92%67%74%82%85%
27Queen Mary University of London92%72%76%82%80%
28University of East Anglia UEA92%63%76%84%88%
29Aston University, Birmingham92%57%76%80%85%
30Glasgow Caledonian University92%92%67%85%90%
31University of South Wales92%62%84%69%n/a
32University of Nottingham91%67%75%81%79%
33University of Leeds91%74%73%82%73%
34Northumbria University, Newcastle91%65%75%83%84%
35University of Leicester91%65%74%89%75%
36University of Reading91%59%80%81%83%
37University of Lincoln91%59%82%84%81%
38University of Sussex91%62%78%82%77%
39St George's, University of London91%66%70%81%83%
40University of Hull91%53%83%83%77%
41Bangor University91%57%76%89%78%
42Robert Gordon University91%79%79%63%95%
43University of Sunderland90%60%74%72%85%
44Bristol, University of the West of England90%60%77%78%80%
45Manchester Metropolitan University90%65%74%76%80%
46Keele University90%61%75%76%76%
47University of Plymouth90%64%73%75%81%
48Teesside University, Middlesbrough89%56%80%73%84%
49University of Central Lancashire89%62%79%75%79%
50Liverpool John Moores University89%61%78%69%77%
51Nottingham Trent University89%58%72%81%77%
52University of Brighton89%59%70%81%78%
53Edge Hill University89%58%79%61%n/a
54University of Portsmouth89%60%78%78%75%
55York St John University89%60%83%59%91%
56University of Chester89%63%73%70%78%
57Anglia Ruskin University88%52%76%75%86%
58Coventry University88%63%73%77%81%
59University of Essex88%58%81%77%79%
60University of Hertfordshire88%52%73%80%77%
61University of Worcester88%53%76%52%85%
62Kingston University88%55%76%76%77%
63Oxford Brookes University88%51%76%75%73%
64University of Salford87%59%74%75%70%
65Abertay University87%72%82%n/a89%
66University of East London87%49%78%69%78%
67University of Roehampton87%50%77%77%71%
68Bournemouth University87%47%76%68%n/a
69Sheffield Hallam University87%55%72%63%83%
70Middlesex University86%54%74%68%74%
71London Metropolitan University86%65%80%67%71%
72Staffordshire University85%47%82%69%89%
73Solent University (Southampton)85%50%72%62%n/a
74University of the West of Scotland85%55%74%70%73%
75University of West London85%56%79%n/an/a
76University of Northampton84%48%67%55%n/a
77University of Derby84%53%80%65%67%
78Canterbury Christ Church University83%42%83%58%n/a
79Leeds Beckett University83%54%74%n/a71%
80University of Wolverhampton83%56%70%n/a73%
81De Montfort University83%50%68%66%64%
82London South Bank University82%46%76%n/an/a
83Birmingham City University81%61%75%37%55%

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยวัดจากอะไร?

ระเบียบวิธีการจัดอันดับรวมถึงหลายตัวชี้วัดสำคัญ เช่น คุณภาพการสอน ผลลัพธ์การวิจัยและชื่อเสียง การเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมการทำงานและการมีส่วนร่วม ความหลากหลายทางระหว่างประเทศ และการอ้างอิงผลงานวิจัย ตัวชี้วัดเหล่านี้ช่วยประเมินสภาพแวดล้อมทางวิชาการ ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญของคณาจารย์ และผลลัพธ์ระดับโลกของสถาบันที่เกี่ยวข้อง การจัดอันดับยังพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความพึงพอใจของนักศึกษา อัตราการจ้างงานของบัณฑิต และอิทธิพลและการเข้าถึงของงานวิจัยที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์

ข้อกำหนดการรับสมัครอาจแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างมหาวิทยาลัย แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้สมัครต้องมีพื้นฐานที่ดีในวิชาวิทยาศาสตร์ เช่น ชีววิทยาและเคมีในระดับมัธยมปลาย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ยังต้องการให้ผู้สมัครมีคะแนนเกรดที่ตรงตามข้อกำหนด และต้องมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่เพียงพอตามเกณฑ์ที่กำหนด

ผู้สำเร็จการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์มีโอกาสในการทำงานหลากหลายสาขา พวกเขาสามารถทำงานในสถาบันวิจัย บริษัทเภสัชกรรม องค์กรด้านการดูแลสุขภาพ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ หรือหน่วยงานภาครัฐ ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ นักวิจัยทางคลินิก เทคนิคการห้องปฏิบัติการ ที่ปรึกษาด้านเภสัชกรรม หรือศึกษาต่อในสาขาที่เชี่ยวชาญเช่น การแพทย์หรือพันธุศาสตร์

ระยะเวลาของหลักสูตรวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ในสหราชอาณาจักรอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา หลักสูตรปริญญาตรีมักใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 4 ปี ส่วนหลักสูตรปริญญาโทจะใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 2 ปี สำหรับหลักสูตรปริญญาเอก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในการวิจัยและการศึกษาในสาขาวิชาการ จะใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 5 ปี

ได้แน่นอน หลายหลักสูตรวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ในสหราชอาณาจักรมีโอกาสให้ผู้เรียนได้เชี่ยวชาญในสาขาที่สนใจ มหาวิทยาลัยบางแห่งมีเส้นทางหรือโมดูลเฉพาะที่ช่วยให้นักศึกษาสามารถมุ่งเน้นไปที่สาขาต่าง ๆ เช่น พันธุศาสตร์ ภูมิคุ้มกันวิทยา ประสาทวิทยา หรือวิศวกรรมชีวภาพ นอกจากนี้ โครงการวิจัยและการฝึกงานยังช่วยให้นักศึกษาสามารถสำรวจและเชี่ยวชาญในสาขาที่ตนเลือกได้มากยิ่งขึ้น

สมัครมหาวิทยาลัยที่คุณสนใจได้แล้ววันนี้!

ติดต่อเราเพื่อขอความช่วยเหลือในการสมัครและคำแนะนำด้านการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

สมัครมหาวิทยาลัยที่คุณสนใจได้แล้ววันนี้!

ติดต่อเราเพื่อขอความช่วยเหลือในการสมัครและคำแนะนำด้านการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *