Top มหาวิทยาลัย UK หลักสูตรทันตแพทย์ 2025

รวม Top มหาวิทยาลัยหลักสูตรทันตแพทย์ในสหราชอาณาจักร ทำความรู้จักมหาวิทยาลัยชั้นนำเหล่านี้ที่โดดเด่นในด้านวิชาการ การลงคลินิกและโอกาสในการทำวิจัยที่สถาบันชั้นนำ สิ่งอำนวยความสะดวกและสื่อการสอนที่ล้ำสมัย เหมาะที่จะเป็นอีกตัวเลือกในการประกอบการตัดสินใจสำหรับการเลือกมหาวิทยาลัย

Top มหาวิทยาลัย UK หลักสูตรทันตแพทย์ 2025

สารบัญ

ทำไมถึงต้องเรียนทันตแพทย์ที่ UK

การเรียนทันตแพทยศาสตร์ในสหราชอาณาจักรมอบข้อได้เปรียบที่น่าสนใจหลากหลายประการ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดึงดูดใจสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาด้านทันตกรรม มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรมีชื่อเสียงในด้านการศึกษาคุณภาพสูงและมาตรฐานทางวิชาการที่เข้มงวด พร้อมมอบวุฒิการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งเปิดโอกาสในระดับโลกให้กับผู้สำเร็จการศึกษา

หลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ในสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับประสบการณ์ทางคลินิกอย่างเข้มข้น นักเรียนจะได้ฝึกปฏิบัติกับผู้ป่วยจริงและพัฒนาทักษะด้านการปฏิบัติทางทันตกรรมอย่างรอบด้าน

ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและการเน้นด้านการวิจัย นักเรียนจะได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และมีโอกาสมีส่วนร่วมในโครงการที่ล้ำหน้า สภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมยังช่วยส่งเสริมทักษะด้านความเข้าใจวัฒนธรรมและการสื่อสาร ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานในสาขาทันตกรรม

นอกจากนี้ อาชีพทันตแพทย์ในสหราชอาณาจักรยังได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดโดยองค์กรอย่างเช่น General Dental Council ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าผู้สำเร็จการศึกษาจะมีคุณสมบัติตามมาตรฐานวิชาชีพสูง การเรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษยังช่วยเสริมทักษะด้านภาษา และทำให้การสอบ Clinical Skills Assessments ง่ายขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการประกอบวิชาชีพในสหราชอาณาจักร อีกทั้งยังมีโอกาสสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อโอกาสในสายอาชีพในอนาคตอีกด้วย

มหาวิทยาลัยชั้นนำสาขาทันตแพทย์ใน UK

Top มหาวิทยาลัย UK หลักสูตรทันตแพทย์ 2025

มหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ดีที่สุดในสหราชอาณาจักรสำหรับปี 2025 โดยอ้างอิงจากการจัดอันดับล่าสุดของ Complete University Guide:

  • University of Dundee
  • University of Glasgow
  • Newcastle University
  • University of Bristol
  • Queen’s University Belfast

รีวิวหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ University of Dundee

University of Dundee ตั้งอยู่ในประเทศสกอตแลนด์ เป็นที่รู้จักอย่างดีในด้านคณะทันตแพทยศาสตร์ หลักสูตรทันตแพทย์ของที่นี่เน้นทั้งทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติจริง โดยนักศึกษาจะได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและคลินิกที่ทันสมัย พร้อมทั้งได้รับประสบการณ์ตรงในการดูแลผู้ป่วย โรงเรียนทันตแพทย์ของ Dundee มีชื่อเสียงด้านการวิจัยและมีความมุ่งมั่นในการผลิตบุคลากรทางทันตกรรมที่มีทักษะสูง

เกณฑ์การรับเข้า (Higher / Advanced Higher, SQA):

  • มาตรฐานทั่วไป: AAAAB จากการสอบ Highers ครั้งแรก

    • Higher: ต้องมีชีววิทยา (แนะนำ Human Biology) และเคมี

    • National 5: ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ เกรด B

    • ข้อเสนอการรับเข้าเป็นแบบมีเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับผลการสัมภาษณ์และผลการเรียนในชั้นปีที่ 6 โดยต้องได้ BBB ใน 3 วิชา ซึ่งรวมถึง Advanced Higher Biology หรือ Chemistry

  • สำหรับผู้สมัครในโครงการสนับสนุนการเข้าถึงการศึกษา (Widening Access):

    • Highers: ต้องได้อย่างน้อย AAABB

    • ต้องมี Biology (แนะนำ Human Biology) และ Chemistry (อย่างน้อยหนึ่งวิชาได้เกรด A)

    • Advanced Higher: Biology หรือ Chemistry เกรด B

    • National 5: ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ เกรด B

    • ต้องได้ตามเงื่อนไขทั้งหมดภายในสิ้นปีที่ 6 โดยไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำในปีที่ 5

    • หากเรียน Highers ในช่วงสองปี ข้อเสนอการรับเข้าจะรวมถึงการเข้าร่วมและผ่านหลักสูตร Access Summer School ของมหาวิทยาลัย Dundee

ค่าเล่าเรียนปีการศึกษา 2024/2025:

  • ระดับปี 1: £38,150

  • ระดับปี 2 ถึง 5: £52,645 ต่อปี

รีวิวหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ University of Glasgow

University of Glasgow เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในสาขาวิชาแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และพยาบาลศาสตร์ ซึ่งล้วนมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ

จุดเด่นของหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ที่ Glasgow:

  • หลักสูตรที่ครอบคลุม: โปรแกรมทันตแพทยศาสตร์ของ Glasgow ผสมผสานความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์กับการฝึกทักษะทางคลินิกอย่างเข้มข้น นักศึกษาเริ่มได้รับการฝึกภาคปฏิบัติตั้งแต่ช่วงต้นของการศึกษา

  • สิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย: โรงเรียนทันตแพทย์ของมหาวิทยาลัยมีห้องปฏิบัติการที่ล้ำสมัยและคลินิกที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้การเรียนรู้ภาคปฏิบัติมีประสิทธิภาพสูง

  • งานวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล: มหาวิทยาลัยมีการวิจัยที่มีอิทธิพลในหลายแขนงของทันตกรรม โดยเฉพาะในด้านสุขภาพช่องปาก การป้องกันโรค และเทคโนโลยีด้านทันตกรรม

  • สภาพแวดล้อมทางวิชาการระดับโลก: นักศึกษาจะได้เรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นสากล มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิดกับเพื่อนร่วมชั้นและคณาจารย์จากหลากหลายประเทศ

ค่าเล่าเรียนประจำปีการศึกษา 2024/2025: £53,460

รีวิวหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ Newcastle University

Newcastle University, ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ Newcastle University มีชื่อเสียงในด้านหลักสูตร Bachelor of Dental Surgery (BDS) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยนักเรียนจะได้รับประโยชน์จากหลักสูตรที่ผสมผสานระหว่างการเรียนรู้ภาคทฤษฎีและประสบการณ์ทางคลินิกอย่างสมดุล โรงเรียนวิทยาศาสตร์ทันตแพทย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านความมุ่งมั่นต่อการสร้างนวัตกรรมและการวิจัย ซึ่งช่วยผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในด้านสุขภาพช่องปาก

บัณฑิตจากหลักสูตรทันตแพทย์ของ Newcastle ได้รับการเตรียมความพร้อมอย่างดีสำหรับเส้นทางอาชีพที่หลากหลายในสาขาทันตกรรม

หลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ของ Newcastle University มีค่าเล่าเรียนรายปีอยู่ที่ £9,250 สำหรับนักเรียนในประเทศ (UK) และ £44,390 สำหรับนักเรียนต่างชาติ โดยข้อกำหนดในการเข้าศึกษาคือจะต้องได้เกรด AAA ในระดับ A-Level หรือมีคะแนน 36 คะแนนในระบบ International Baccalaureate (IB)

รีวิวหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ University of Bristol

University of Bristol มี School of Oral and Dental Sciences ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรทางทันตแพทยศาสตร์อย่างครอบคลุม โดยหลักสูตรนี้เน้นการฝึกฝนทางคลินิกตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของการเรียน ทำให้นักศึกษาสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยได้ตั้งแต่ช่วงแรกของการศึกษา โรงเรียนทันตแพทย์ของ Bristol มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในงานวิจัย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสุขภาพช่องปาก

โครงสร้างของหลักสูตรประกอบด้วยหัวข้อหลัก 4 ด้าน ได้แก่:

  • ผู้ปฏิบัติงาน (practitioner)

  • นักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ (scholar and scientist)

  • ผู้เชี่ยวชาญและผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง (professional and agent of change)

  • บุคคลและพลเมือง (person and citizen)

ค่าเล่าเรียนประจำปี 2025/2026 อยู่ที่ £46,500

รีวิวหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ Queen's University Belfast

Queen’s University Belfast ซึ่งตั้งอยู่ในไอร์แลนด์เหนือ เปิดสอนหลักสูตร Bachelor of Dental Surgery (BDS) โดยโรงเรียนทันตแพทย์ของที่นี่มุ่งเน้นให้นักศึกษาได้รับพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ทันตกรรมและทักษะทางคลินิก หลักสูตรนี้ผสานความรู้ทางทฤษฎีเข้ากับประสบการณ์ภาคปฏิบัติในสถานการณ์คลินิกจริง มหาวิทยาลัย Queen’s University Belfast มีชื่อเสียงด้านความมุ่งมั่นในการผลิตบัณฑิตทันตแพทย์ที่มีความสามารถและมีเมตตาในวิชาชีพ

ค่าเล่าเรียนประจำปี 2024/2025 อยู่ที่ £37,600

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร หลักสูตรทันตแพทย์ 2025

รายชื่ออันดับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรหลักสูตรทันตแพทย์ 2025

RankUniversityCourse nameFees (Per Annum)DurationTEF rating
1University of DundeeDentistry BDS£38,1505 YearsNA
2University of GlasgowDentistry BDS£53,4605 YearsNA
3University of BristolDentistry - BDS entry BDS£43,1005 YearsSilver
4Cardiff UniversityDental Surgery (BDS)£43,7005 YearsNA
5Newcastle UniversityDental Therapy BSc (Hons)£44,3903 YearsSilver
6University of LeedsDental Surgery / Oral Science BChD£48,0005 YearsSilver
7Queen's University BelfastDentistry BDS£37,6005 YearsNA
8University of ManchesterDentistry BDS£36,5005 YearsSilver
9King's College London, University of LondonDentistry BDS£54,3135 YearsSilver
10University of SheffieldDental Surgery BDS£46,1905 YearsSilver

การวัดผลการจัดอันดับ

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรโดย Complete University Guide (CUG) อิงตามเกณฑ์หลายประการ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับสมรรถนะของมหาวิทยาลัยในด้านต่างๆ แก่นักเรียนที่กำลังพิจารณาเลือกสถานศึกษาต่อไป โดยเกณฑ์ที่ใช้มีดังนี้:

  1. มาตรฐานการรับเข้าเรียน (Entry Standards)
    วัดจากคะแนน UCAS tariff เฉลี่ยของนักเรียนใหม่ที่เข้ามหาวิทยาลัย
    สะท้อนถึงความสามารถทางวิชาการของนักเรียนที่ได้รับการตอบรับเข้าเรียน

  2. ความพึงพอใจของนักเรียน (Student Satisfaction)
    ได้มาจากการสำรวจระดับประเทศของนักเรียน (National Student Survey: NSS) ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจโดยรวมต่อคุณภาพของหลักสูตร
    เกณฑ์นี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนรู้ของนักเรียน

  3. คุณภาพงานวิจัย (Research Quality)
    อ้างอิงจากผลประเมินวิจัยล่าสุด (Research Excellence Framework: REF)
    ประเมินคุณภาพของผลงานวิจัย ผลกระทบ และสิ่งแวดล้อมด้านการวิจัยในมหาวิทยาลัย

  4. ความเข้มข้นด้านการวิจัย (Research Intensity)
    พิจารณาสัดส่วนของบุคลากรทางวิชาการที่เข้าเกณฑ์และได้ถูกรวมอยู่ในรายงาน REF
    สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสถาบันในการทำวิจัยทั่วทั้งมหาวิทยาลัย

  5. แนวโน้มความก้าวหน้าในอาชีพ – ผลลัพธ์ (Graduate Prospects – Outcomes)
    วัดจากเปอร์เซ็นต์ของบัณฑิตที่มีงานทำในตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะสูง หรือเรียนต่อ ภายใน 15 เดือนหลังจบการศึกษา อ้างอิงจากการสำรวจ Graduate Outcomes

  6. แนวโน้มความก้าวหน้าในอาชีพ – ความสอดคล้อง (Graduate Prospects – On Track)
    ประเมินว่างานหรือการศึกษาต่อของบัณฑิตสอดคล้องกับเป้าหมายในอนาคตหรือไม่ โดยใช้ข้อมูลจากการสำรวจ Graduate Outcomes เช่นกัน

  7. อัตราส่วนระหว่างนักเรียนต่อบุคลากร (Student-Staff Ratio)
    เปรียบเทียบจำนวนของนักเรียนกับจำนวนอาจารย์ เพื่อบ่งชี้ถึงระดับความเอาใจใส่แบบรายบุคคลและการสนับสนุนที่เป็นไปได้

  8. งบประมาณด้านบริการวิชาการ (Academic Services Spend)
    ประเมินค่าใช้จ่ายต่อหัวนักเรียนในด้านบริการ เช่น ห้องสมุด เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสนับสนุนทางวิชาการ

  9. งบประมาณด้านสิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities Spend)
    ตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่อหัวนักเรียนในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อาคาร ห้องปฏิบัติการ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา

  10. อัตราการสำเร็จการศึกษา (Degree Completion)
    วัดเปอร์เซ็นต์ของนักเรียนที่เรียนจบหลักสูตร สะท้อนถึงการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยและความพึงพอใจของนักเรียนต่อหลักสูตรนั้นๆ

  11. เกียรตินิยมดี (Good Honours)
    ประเมินเปอร์เซ็นต์ของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาด้วยผลเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (First Class) หรืออันดับสองส่วนบน (Upper Second Class)

น้ำหนักและการจัดอันดับ (Weightings and Rankings)

แต่ละเกณฑ์จะมีน้ำหนักต่างกัน ซึ่งกำหนดขึ้นตามความสำคัญที่คาดว่านักเรียนให้ความสนใจ
คะแนนรวมจากเกณฑ์ทั้งหมดจะถูกรวมเป็นคะแนนเต็ม 1,000 แล้วนำไปใช้จัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วทั้งสหราชอาณาจักร

ระเบียบวิธีการจัดอันดับนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความเข้มข้นทางวิชาการกับผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ช่วยให้นักเรียนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลในการเลือกสถานที่ศึกษาในอนาคต

Factors to Consider in Choosing a Dentistry Programme

การเลือกหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ที่เหมาะสมเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยมีปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาดังนี้:

1. การรับรองหลักสูตร (Accreditation):
ควรตรวจสอบว่าหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์นั้นได้รับการรับรองจากหน่วยงานวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดยองค์กรกำกับดูแลทันตกรรม การรับรองนี้เป็นหลักประกันว่าหลักสูตรมีคุณภาพและมาตรฐานทางการศึกษาที่ได้รับการยอมรับ

2. หลักสูตรการเรียนและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Curriculum and Specialisations):
ควรศึกษาหลักสูตรการเรียนการสอนว่าเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อที่สำคัญในด้านทันตแพทยศาสตร์หรือไม่ บางหลักสูตรอาจมีวิชาเลือกหรือสาขาเฉพาะทางเพิ่มเติม ซึ่งคุณควรเลือกให้ตรงกับความสนใจและเป้าหมายในอาชีพของคุณ

3. การฝึกปฏิบัติทางคลินิก (Clinical Exposure and Practical Training):
ประเมินว่าหลักสูตรมีการฝึกปฏิบัติจริงมากน้อยเพียงใด การได้ทำงานกับผู้ป่วยจริงตั้งแต่ช่วงต้นของการเรียนจะช่วยเสริมสร้างทักษะและความมั่นใจในการทำงานทางคลินิก

4. โอกาสด้านการวิจัย (Research Opportunities):
หากคุณสนใจงานวิจัย ควรพิจารณาหลักสูตรที่มีโอกาสในการเข้าร่วมโครงการวิจัย หรือความร่วมมือกับศูนย์วิจัยทางทันตกรรม การมีส่วนร่วมในงานวิจัยจะช่วยเพิ่มพูนความเข้าใจลึกซึ้งในสาขานี้และอาจมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ

5. คณาจารย์และสิ่งอำนวยความสะดวก (Faculty and Facilities):
ตรวจสอบคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญของอาจารย์ผู้สอน การได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จะช่วยเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ควรพิจารณาความทันสมัยของสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องปฏิบัติการและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีผลต่อคุณภาพของการเรียนรู้โดยรวม

โอกาสในอาชีพสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตร์ในสหราชอาณาจักร

ผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตร์ในสหราชอาณาจักรมีโอกาสในสายอาชีพที่หลากหลาย ตั้งแต่การปฏิบัติงานทางคลินิก ไปจนถึงงานวิจัยและวิชาการ โดยมีเส้นทางอาชีพหลักที่น่าสนใจดังนี้:

1. การประกอบวิชาชีพทันตกรรมทั่วไป (General Dental Practice):
บัณฑิตจำนวนมากเลือกทำงานในคลินิกทันตกรรมทั่วไป โดยให้บริการดูแลสุขภาพช่องปากแก่ผู้ป่วยอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการดูแลป้องกัน การบูรณะฟัน และการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก

2. ทันตกรรมเฉพาะทาง (Specialist Dentistry):
ทันตแพทย์สามารถเลือกศึกษาต่อเพื่อเชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะ เช่น การจัดฟัน ศัลยกรรมช่องปาก ปริทันตวิทยา การรักษารากฟัน และการทำฟันเทียม การเชี่ยวชาญเฉพาะทางต้องผ่านการฝึกอบรมเพิ่มเติม และเปิดโอกาสให้ทันตแพทย์สามารถมุ่งเน้นในด้านการดูแลเฉพาะด้านได้

3. ทันตกรรมในโรงพยาบาล (Hospital Dentistry):
ทันตแพทย์บางคนทำงานในโรงพยาบาล โดยให้การรักษาแก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมสหสาขาวิชาชีพ ทันตแพทย์ในโรงพยาบาลมักดูแลผู้ป่วยที่ต้องการการผ่าตัดหรือหัตถการขั้นสูง

4. ทันตกรรมชุมชน / ทันตกรรมสาธารณสุข (Community Dentistry/Public Health):
ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถทำงานในด้านสาธารณสุข โดยเน้นการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและการดูแลป้องกันภายในชุมชน ซึ่งอาจรวมถึงโครงการทันตกรรมในโรงเรียน การรณรงค์ในชุมชน และกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขภาพ

5. งานวิชาการและวิจัย (Academia and Research):
ผู้สำเร็จการศึกษาบางคนเลือกเข้าสู่อาชีพด้านวิชาการ ทำวิจัยและสอนนักศึกษาทันตแพทย์รุ่นใหม่ เส้นทางนี้มักต้องศึกษาต่อในระดับสูง (เช่น MSc, PhD) และมีบทบาทในการพัฒนาความรู้และนวัตกรรมทางทันตแพทยศาสตร์

หัวข้อวิทยานิพนธ์ที่น่าสนใจสำหรับสาขาทันตแพทยศาสตร์

  1. ประสิทธิภาพของเทเลทันตกรรมในการติดตามสุขภาพช่องปากระยะไกล

  2. ผลกระทบของปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมต่อความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพช่องปาก

  3. การประเมินวัสดุชีวภาพทางทันตกรรมชนิดใหม่

  4. การประเมินโครงการเสริมสร้างความรู้ด้านสุขภาพช่องปาก

  5. บทบาทของไมโครไบโอมต่อสุขภาพและโรคในช่องปาก

  6. ผลกระทบของพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่อสุขภาพช่องปาก

  7. การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในงานทันตกรรม

  8. ความพึงพอใจและประสบการณ์ของผู้ป่วยต่อการดูแลทันตกรรม

  9. การวิเคราะห์ความกลัวและความวิตกกังวลเกี่ยวกับทันตกรรม

  10. ระบาดวิทยาของมะเร็งในช่องปาก

คำถามที่พบได้บ่อย

การแข่งขันเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนทันตแพทย์นั้นเข้มข้นมาก และหลายแห่งต้องการให้คุณสอบ University Clinical Aptitude Test (UCAT) หรือ BioMedical Admissions Test (BMAT) เมื่อคุณสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องลงทะเบียนกับ General Dental Council (GDC) จึงจะสามารถประกอบวิชาชีพทันตแพทย์อย่างถูกต้องได้
ทันตแพทย์ในสหราชอาณาจักรเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน ตามข้อมูลจาก Clearwater International ตลาดทันตกรรมมีมูลค่าเท่ากันทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน

ยุโรปเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกหลายแห่ง โดยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำอยู่ในเนเธอร์แลนด์ สวีเดน สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์

ห้าปี

การเป็นทันตแพทย์ต้องใช้เวลาเรียนอย่างน้อยห้าปีในโรงเรียนทันตแพทย์ ตามด้วยการฝึกงานภายใต้การดูแลอีกหนึ่งถึงสองปี ผู้สมัครส่วนใหญ่จะต้องมีผลสอบ A-level เกรด A ทั้งสามวิชา แม้ว่าบางโรงเรียนทันตแพทย์จะมีหลักสูตรเตรียมทันตแพทย์หนึ่งปีให้ด้วยเช่นกัน

สมัครเรียนทันตแพทย์มหาวิทยาลัยชั้นนำใน UK

ปรึกษาด้านการเรียนต่อหรือวางแผนการเรียนกับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อใน UK ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

สมัครเรียนทันตแพทย์มหาวิทยาลัยชั้นนำใน UK

ปรึกษาด้านการเรียนต่อหรือวางแผนการเรียนกับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อใน UK ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย